หลังจากเปิดฤดูกาลมาเกือบ 2 เดือน แต่ทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ นั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่แฟนปีศาจแดง หวังไว้เลย เพราะด้วยเขามีผู้เล่นมากฝีมือ และมีคุณภาพคับแก้วอยู่มาก แต่ยังกลับพาทีมแพ้วนลูปอยู่เหมือนเดิม ปัญหาทั้งหมดนั้นจึงตกมาอยู่ที่ โอเล่ ซึ่งจากการเสริมทัพอย่างมหาศาลในซีซั่นนี้ หลายฝ่ายก็ต้องคาดหวังที่จะเห็นยักษ์หลับอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาคว้าแชมป์ให้ได้บ้าง เพราะนับตั้งแต่ โซลชาร์ ก้าวเข้ามาเป็นหัวเรือใหญ่ตั้งแต่ปี 2018 เจ้าตัวยังไม่สามารถพาทีมเก็บแชมป์ได้เลยสักรายการเดียว ได้แต่เฉียดทำให้แฟนผีต้องใจหาย และก็ยังดูเหมือน โอเล่ จะไม่มีวิธีการเล่นที่ชัดเจนไม่ต่างจากซีซั่นก่อนเลย ที่เหมือนจะพึงแต่บารมีของลูกทีม
ถ้าไล่ดูถึงไทม์ไลน์ของทีมตั้งแต่เปิดฤดูกาล จะเห็นได้ว่าโอเล่เก็บชัยตั้งแต่เปิดซีซั่นได้เพียงแค่ 4 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ไปถึง 3 เกม เรามาดูไทม์ไลน์ต่างๆ ตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2021/22 ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องพบเจออะไรบ้าง? นัดแรก ปีศาจแดง ของโอเล่ มีเกมต้องพาลูกทีมเปิดรังพบ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีกเปิดฤดูกาล ซึ่งเกมนัดแรกลูกทีมสามารถถล่ม “ยูงทอง” ไปถึง 5-1 ซึ่งถือว่าเป็นเกมเปิดซีซั่นที่ยอดเยี่ยมมาก แต่พอผ่านมาถึงเกมสุดสัปดาห์ต่อมา เหล่าสาวกก็ต้องมานั่งจ๋อยอีกครั้ง เมื่อแมนยู ต้องบุกไปเสมอกับ เซาแธมป์ตัน แบบตึงมือสุดๆ และนัดถัดมาปีศาจแดงมีเกมที่ต้องพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เกมนี้ก็ถือว่าเป็นนัดที่หืดจับ เพราะกว่าจะเก็บ 3 คะแนนมาได้นั้นช่างยากเสียเหลือเกิน
ถัดมาสุดสัปดาห์ต่อมา แมนยูก็ได้ตำนานอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาปลุกชัย นั้นทำให้แฟนผีได้ยิ้มอีกครั้ง เพราะในนัดนี้ปีศาจแดง เปิดบ้านถล่ม “สาลิกาดง” ไปถึง 4-1 จึงทำให้สาวกต่างคิดไปตามๆ กัน เอาเว้ย!! ทีมรักของพวกกูกลับมาแล้ว แต่ทว่าดีใจได้ไม่กี่วัน มันก็วนลูปเหมือนเดิมอีก เพราะปีศาจแดงก็ไปพ่ายในเกมกลางสัปดาห์อีก กับการต้องบุกไปเจอ ยัง บอยส์ ในรายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซึ่งเมื่อพูดถึงชื่อชั้นคุณภาพของนักเตะต้องบอกว่า พวกเขาเป็นรองแมนยูอยู่มาก แต่นัดนี้ก็ถือเป็นเกมที่ยาก เพราะผู้เล่นของปีศาจแดงต้องเหลือเพียง 10 คน จากการที่ อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็คขวาตัวเก่งต้องมาโดนใบแดง แต่ที่มันน่าผิดหวังก็คือ การเปลี่ยนตัวแบบเหมือนจะดูมั่วซั่วมากของโอเล่ เพราะไม่รู้เขาจะรุก หรือจะรับ มันดูมั่วไปหมด นั้นยิ่งทำให้สาวก และหลายฝ่ายตำนิถึงวิธีการคุมทีมของกุนซือรายนี้
จบจากเกมกลางสัปดาห์ แมนยูมีคิวต้องบุกไปพบกับ “ขุนค้อน” ของเดวิด มอยส์ ซึ่งรูปเกมนัดนี้ถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี แต่ก็มีดราม่ามากมายในเกมนั้นนี้ ทั้งการถูกออกนำไปก่อน และจากการที่ เจสซี่ ลินการ์ด ลงมายิงประตูชัยให้ทีม หรือจะเป็นช่วงท้ายเกม ดาบิด เด เคอา เซฟจุดโทษเก็บชัยได้แบบหล่อๆ ซึ่งมองเกมนี้ ก็ถือว่า โอเล่ ทำได้ดีในการเปลี่ยนตัว ลินการ์ด ลงมา แต่ถ้าเราคิดว่า เด เคอา ไม่สามารถเซฟประตูสำคัญนี้ได้แล้ว ทีมของพวกเราจะเก็บได้เพียง 1 คะแนนเท่านั้น
นัดต่อมาเกมกลางสัปดาห์ ปีศาจแดง ต้องเปิดบ้านพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อีกครั้งในศึก คาราบาว คัพ รอบ 3 และโซลชาร์ ก็ได้โรเตชั่นนักเตะสำรองมาไว้เจอกับ เดวิด มอยส์ โดยตรง ศึกเกมนัดนี้ก็เหมือนจะวนมาในลูปเดิมๆ เพราะแบบแผ่น และวิธีการเล่นของโอเล่ เหมือนจะไม่มีเลย ได้แต่พึงผู้เล่นอีกครั้ง ทำให้แมนยูต้องพ่ายคาบ้านตกรอบไปตั้งแต่รอบ 3
และเกมล่าสุดแมนยูก็ยังเก็บความสม่ำเสมอไว้ได้ดี เพราะทีมของ โซลชาร์ ก็ต้องแพ้คาบ้านอีก 1 นัด จากการที่แอสตัน วิลล่า บุกมาทำแสบชนะปีศาจแดง คาบ้านในรอบ 10 กว่าปี นัดนี้จะได้เห็นว่าลูกทีมของ โอเล่ เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก ทั้งที่มีโอกาสยิงมากมาย แต่ผู้เล่นในแนวรุกก็เหมือนจะฝืนยิงอยู่มาก ดูแล้วไม่เป็นทีมเวิร์ดเลย แต่ถึงอย่างนั้น โอเล่ ก็ไม่มีการกระตุ้นลูกทีม หรือปรับทัศนคติลูกทีมเลย เพราะเกมครึ่งหลังก็ยังเป็นวิธีการเล่นเดิมๆ โดยเฉพาะการยิงทิ้งขว้างของ กรีนวู้ด และการที่เปลี่ยน คาวานี่ ลงมาช้าจนเกินไป นั้นจึงมองเห็นถึงการติดสินใจที่ไม่เด็ดขาดพอของกุนซือรายนี้
ดูๆ แล้ว โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ก็ยังคงไร้ความสม่ำเสมอ เดี๋ยวดี เดี๋ยวแย่ ไม่ต่างอะไรจากช่วงที่ผ่านมาตลอดการคุมทัพ และเชื่อว่าจากการเสริม จาดอน ซานโช่, ราฟาเอล วาราน และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ รวมถึงโปรแกรมการแข่งขันในอนาคต ที่กำลังใกล้เข้ามา มันจะเป็นตัวตัดสินชี้ชะตาของเจ้าตัวแน่นอน