เกมเปิดฤดูกาล 2022/23 เมื่อคืนที่ผ่านมา ถือเป็นการเปิดซิงที่หน้าผิดหวังสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากพ่ายแพ้ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้กับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน 1-2 โดยรูปเกม ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำ 0-1 ในนาที 30 จาก พาสคาล โกรสส์อกบา และมาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 ในนาทีที่ 39 จากการยืนถูกที่ถูกจุดจากคนเดิม พาสคาล โกรสส์ และจบครึ่งแรก 0-2 หลังจากนั้นครึ่งหลังรูปเกมฝ่ายเจ้าบ้านผับสนามบุกย้ำ จนกระทั่งนาทีที่ 68 แมนยูมาได้ประตูตีไข่แตก 1-2 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ แต่ก็ไม่สามารถตามตีเสมอได้ ทำให้แมนยูจบเกมไปด้วยสกอร์นี้
ชำแหละหลังเกม
เริ่มจากการจัดทัพเมื่อคืนของ เอริก เทน ฮาก ในไลน์อัพขึ้นเป็นแผน 4-3-3 แต่ตำแหน่งที่เห็นบนสนาม คือ 4-1-1-4-0 โดยให้ บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ คริสเตียน อีริคเซ่น ยืนเป็น False9 โดยสลับกันขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าตามจังหวะของเกม ไม่มีใครเป็นหัวหอกตายตัว และใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เล่นหน้าซ้าย และ จาดอน ซานโช่ เล่นหน้าขวา เกมตรงแดนกลางเป็นคู่หู แม็ค, เฟร็ด เหมือนเดิม ส่วนแดนหลังใช้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ และแบ็คขวาเป็น ดิโอโก้ ดาโลต์ ทางซ้ายคือ ลุค ชอว์
เมื่อคืน แรชฟอร์ด ใช้โอกาสสิ้นเปลืองมาก เหมาะกับการไปนั่งเป็นสำรองมากกว่าลงเล่นตัวจริง แต่อย่างที่ทุกคนเข้าใจ 11 ตัวจริงในยุคของ เทน ฮาก ถ้า 3 ประสานในแดนหน้าเป็น อองโตนี่ มาร์ซิยาล, จาดอน ซานโช่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เหมือนในช่วงปรีซีซั่น เชื่อว่าเกมบุกเมื่อคืนอาจจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะความเข้าใจกันของทั้ง 3 คนในแผน 4-2-3-1 ถือว่าตอบโจทย์ และเอื้อกับพวกเขาเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อ มาร์ซิยาล บาดเจ็บ ทำให้แท็คติกส์ต้องเปลี่ยนใหม่ ความจริง 4-1-1-4-0 ก็ไม่ได้ดูแย่ แต่ที่มันแย่ก็คือ กองกลาง อย่าง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด ที่ทำอะไรไม่ได้เลย โดยเราจะมาพูดถึงเขากันทีหลัง คำถามต่อมาคือ ทำไม เอริก เทน ฮาก ถึงไม่ให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงตัวจริง ซึ่งถ้ามองในแง่ดีก็คือ พี่โด้ยังไม่ฟิตเพราะกลับมาลงซ้อมกับเพื่อนช้า แต่ถ้ามองในอีกแง่ คงเป็นการทำโทษ โรนัลโด้ ที่กลับมารายงานตัวฝึกซ้อมช้า และยังมีข่าวเรื่องวินัยอยู่
การที่ เทน ฮาก ดรอป คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในครึ่งแรก และตัดสินใจเปลี่ยนแท็คติกส์ที่ใช้ในช่วงอุ่นเครื่อง เป็นบทเรียนราคาแพงที่โค้ชชาวดัตซ์ต้องเจอในเกมเปิดสนาม เพราะการที่เอากลางรุกอย่าง บรูโน่ กับ อีริคเซ่น ไปเล่น False9 ทำให้การขึ้นบอล ง่อยรับประทาน แถมตัวรุกจะต้องถอยร่นลงมาล้วงบอลเอง ปัญหานี้ทำให้ จาดอน ซานโช่ ได้สัมผัสบอลน้อยที่สุดในครึ่งแรกเลย
สุดท้าย เทน ฮาก ต้องยอมเปลี่ยนแท็คติกส์ในครึ่งหลังให้ คริสเตียน อีริคเซ่น ถอยมาล้วงบอลต่ำเป็นเพลย์เมคเกอร์ และให้หน้าเป้าเป็น CR7 ซึ่งรูปเกมเปลี่ยนไปคนละเรื่องจากในครึ่งแรก
ปัญหาความผิดพลาดหลัก
ปัญหาเดิมๆ จากซีซั่นก่อนๆ ได้แก่ คู่มหาประลัย แม็ค – เฟร็ด โดยประตูแรกมีจุดเริ่มต้นมาจากการเสียบอลง่ายๆ ตรงกลางจากความย่ำแย่ของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ทำบอลพันแข้งพันขาตัวเอง ทำให้โดนสวนกลับขึ้นมา และอีกส่วนหนึ่งต้องโทษ ดิโอโก้ ดาโลต์ ที่ไม่สามารถเบรคเกมรุกของคู่แข่งได้
อีกประตู เป็นจังหวะที่ ไบรท์ตันฯ ลำเลียงบอลขึ้นมายิง แต่กับไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับคอยยับยั้งไว้เลย มองให้เห็นถึงศักยภาพของทั้งสองคน ที่ไม่เหมาะกับการออกสตาร์ทเป็นตัวหลักให้กับทีม ต่อให้กองหลังระดับโลก หรือไม่พลาดง่ายๆ มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะถ้ายังใช้คู่นี้ลงเล่นอยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีทางกลับมาดีได้แน่นอน
แม้ แฟรงกี้ เดอ ยอง จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในตลาดนี้ แต่การที่แมนยูมัวแต่ให้ความสำคัญกับ เดอ ยอง ทำให้ทีมในตอนนี้ไม่ได้นักเตะใหม่ในตำแหน่งนี้ซักที เชื่อเลยว่าใน 5 ลีกใหญ่ ยังมีกองกลางตัวรับที่มีศักยภาพดีกว่าทั้งสองอยู่ แต่ทำไมกัน? ไม่ว่าจะโค้ชคนไหนก็มักจับคู่นี้ลงด้วยกัน เรามองยังรู้เลยว่า ทั้งสองคุณภาพโคตรแย่
แม็คทอม เป็นผู้เล่นที่โคตรไร้ประโยชน์ มักทำฟาวล์แบบไม่จำเป็น ติดเลี้ยงไปทับไลน์เพื่อน และออกบอลมั่วซั่วแบบลกๆ ส่วน เฟร็ด เสียบอลพร่ำเพรื่อ และไม่มีวิสัยทัศน์ในการอ่านเกม มักตัดเกมของคู่แข่งไม่ค่อยได้ แต่สำหรับ เฟร็ด ถ้าได้ยืนกับตัวตัดเกมที่มีคุณภาพกว่า แม็ค เขาอาจจะปล่อยของได้มาก เหมือนตอนที่เล่นกับทีมชาติบราซิล
จุดนี้มองว่า เอริก เทน ฮาก ควรรีบกำจัดจุดด้อยตรงนี้ให้ได้ ไม่ลองดันฟอร์มของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ก็ควรเสี่ยงกับเด็กๆ ดีกว่าให้ แม็คโทมิเนย์ ทำให้งานเสีย และก่อความเดือดร้อนอยู่ตลอด
ส่วนอีกคนที่ก่อความผิดพลาดให้เห็น คือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ซึ่งดูเมื่อคืนอาจไม่ผิดพลาดมาก แต่สังเกตดีๆ นี้คือจุดบอดของเกมรับเลย เพราะเจ้าตัวออกบอลช้า บางทีเพื่อนมายืนรอรับบอล ก็ดันเลี้ยงไปทับไลน์เพื่อน เรื่องของเกมรับ พอเจอกับ มหาเทพเวลเบ็ค ตัวต่อตัวก็เอาไม่อยู่ จน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ต้องหลุดตำแหน่งมาช่วยหลายครั้ง และสุดท้ายก็เป็นเหตุแก่การเสียประตู
สำหรับการเสริมทัพของ “ปีศาจแดง” ยังเหลือเวลาอีกเกือบเดือนกว่าตลาดจะปิด หวังว่าบอร์ดจะรีบหานักเตะที่ต้องการให้โดยเร็ว เพราะการสร้างทีมใหม่มันต้องใช้เวลา และถ้าทีมไม่ได้คีย์แมนหลักที่ต้องการ เท่ากับการเดินหน้าหาความสำเร็จของสโมสร มันจะขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง.
สถิติที่สุดอัปยศเมื่อคืน ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- เอริก เทน ฮาก เป็นผู้จัดการทีมคนแรกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แพ้ในเกมเปิดสนาม นับตั้งแต่ หลุยส์ ฟาน กัล เคยทำไว้เมื่อปี 2014
- พาสคาล โกรสส์ ยิง 6 ประตูใน พรีเมียร์ลีก ใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมากกว่ายิงทีมอื่นๆ ถึง 2 เท่า
- พาสคาล โกรสส์ สร้างสถิติให้ตัวเองโดยการเป็นนักเตะของ “เจ้านกนางนวล” ที่ยิงประตูใส่ทีมๆ เดียวมากที่สุดในลีก.