ดิโอโก้ ดาโลต์ แบ็คขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สาวก “ปีศาจแดง” ต่างสงสัยในเรื่องของศักยภาพฝีเท้า เพราะตั้งแต่ย้ายเข้ามา เขาเป็นเพียงผู้เล่นสำรองที่รอวันย้ายทีมเท่านั้น จนตอนนี้เขาถือเป็นตัวหลักในชุดของ เอริก เทน ฮาก และเป็นอีกหนึ่งคนในซีซั่นนี้ ที่แฟนบอลต่างติดตามผลงานอย่างใกล้ชิดในฤดูกาลนี้ บทความนี้ เทพแมนยู จะพาไปเจาะลึกเรื่องราวของดาโลต์ ชายผู้ทุ่มเทแต่ถูกมองข้ามมาตลอด
จุดเริ่มต้นของ ดิโอโก้ ดาโลต์
ดิโอโก้ ดาโลต์ เกิด และเติบโตที่เมือง บราก้า ประเทศโปรตุเกส นับว่าเขามีเส้นทาง การเริ่มต้นอาชีพที่ดีกว่าคนอื่นๆ พอสมควร เพราะเพียงอายุได้แค่ 9 ขวบ เมื่อปี 2008 เค้าก็ได้รับเลือกเข้าไปอยู่กับอะคาเดมี่ของ เอฟซี ปอร์โต้
จากการเป็นผู้เล่นที่มี พรสวรรค์สูง ไต่เต้าผ่านแต่ละระดับชั้นมาได้แบบสบายๆ ได้รับการจับตามองจากสื่ออยู่ตลอด ถูกคาดหมายว่าจะเป็นนักเตะวันเดอร์คิดส์ ของทีมชาติในอนาคต ติดทีมชาติโปรตุเกสมาทุกชุด ไล่เรียงมาตั้งแต่ชุดอายุต่ำกว่า 15 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์ยุโรปชุดเยาวชนทั้งรุ่น 17 ปี และ 19 ปี แต่ได้แชมป์ติดมือมาเพียงรุ่นเดียว ในปี 2016
ด้วยฝีเท้าอันโดดเด่นของเขา ทำให้ถูกโปรโมทขึ้นอยู่กับทีม ปอร์โต้ บี ตั้งแต่ซีซั่น 2015/16 ด้วยวัยแค่ราว 16 ปี พอปีต่อมาก็ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ต่อกรกับผู้เล่นอายุมากกว่าในลีกรองได้แบบสบายๆ จากการที่ ดาโลต์ เป็นผู้เล่นที่โด่งดังไม่น้อย ในฐานะดาวรุ่งศักยภาพสูง ภายในลีกโปรตุเกส
การเข้ามาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด
แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ลงสนามโชว์ฟอร์มเต็มที่ให้กับ ปอร์โต้ ชุดใหญ่มากเท่าไหร่นัก แต่ทีมแมวมองของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่มีเส้นสายภายในประเทศแบบลึกถึงราก มองว่าการตัดสินใจคว้าตัวฟูลแบ็ครายนี้ไปปลุกปั้นแต่เนิ่นๆ จะเป็นผลดีกับสโมสรที่กล้าเสี่ยง
ดังนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงตัดสินใจควักกระเป๋าเป็นเงินราว 22 ล้านยูโร ดึงตัวเขามายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แบบไม่มีคู่แข่ง เนื่องจากเป็นราคาที่สูงมากสำหรับนักเตะดาวรุ่ง ที่ยังไม่มีผลงานในทีมชุดใหญ่ แน่นอนว่าสาวก “เร้ดส์ อาร์มี่” ส่วนมาก ต่างรู้สึกแปลกใจกับดีลดังกล่าว ที่ผลาญงบเสริมทัพไปไม่น้อย
เริ่มต้นไม่สวยในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ดิโอโก้ ดาโลต์ มีจุดเด่นอยู่ที่การเติมเกมรุกที่เมามันเร้าใจ มีจังหวะการสอดประสานขึ้นไปครอสบอล ที่มีประสิทธิภาพ และอันตรายอยู่เสมอ แต่ด้วยอายุที่ยังน้อย ยังไม่เคยดวลกับผู้เล่นระดับซีเนียร์แบบจริงจัง คู่แข่งที่ผ่านมาของเขาเป็นแค่นักเตะระดับเยาวชน จุดบอดในเรื่องของเกมรับเลยเผยออกมาทีละน้อย
ไม่ว่าจะเป็นการคุมพื้นที่อันหละหลวม จังหวะประกบตัวที่ชอบทิ้งระยะห่างกับคู่แข่ง มีช็อตเสียสมาธิให้เห็นอยู่เป็นประจำ ทำให้ผลงานของเขาในฤดูกาลแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ไม่สวยอย่างที่ใครๆ ตั้งความหวังไว้ พอปีต่อมาก็ได้ลงเล่นน้อยลง เพราะเจออาการบาดเจ็บเล่นงานซ้ำเติมเข้าไปอีก
จึงเป็นสาเหตุให้ทางต้นสังกัด ตัดสินใจปล่อยตัวเขาให้ไปเล่นกับ เอซี มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล 2020/21 แลกกับเงินราว 5 แสนยูโร เพื่อหวังให้แบ็คฝอยทอง ไปเรียกความมั่นใจ และเติมความเก๋า แต่ถ้าตัดเกรดแล้วไม่ผ่านก็พร้อมขายทิ้ง
โอกาสพิสูนจ์ตัวเอง
ด้วยผลงานที่โดนเด่นกับทัพ “ปีศาจแดงดำ” บวกกับลีกอิตาลีมีสปีดบอลที่ช้ากว่าลีกอังกฤษ ส่งผลให้ฟอร์มของ ดิโอโก้ ดาโลต์ ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพ ในการไปยืนฝั่งซ้ายได้ด้วย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทางต้นสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกที่จะไม่ขาย และเรียกตัวกลับมาใช้งานในฤดูกาล 2021/22
ในช่วงแรกในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แข้งชาวโปรตุเกสยังคงต้องนั่งรอโอกาสไปเหมือนเคย จนกระทั่งนายเก่าของเขาถูกปลด และทีมได้แต่งตั้ง ไมเคิล คาร์ริค เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราว ประจวบเหมาะกับที่ อารอน วาน-บิสซาก้า ก็เริ่มฟอร์มหลุดอยู่ เขาจึงได้โอกาสลงสนามในเกมลีกเป็นนัดแรก และแสดงออกมาได้อย่างโดดเด่น เพราะทีมเสมอกับ เชลซี ได้ 1-1 แถมยังเอาชนะ อาร์เซน่อล 3-2
กระทั่ง ราล์ฟ รังนิก เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชั่วคราวจนจบซีซั่น ดาโลต์ ก็เริ่มได้ลงโชว์ฟอร์มมากขึ้น เพราะเจ้าตัวเล่นเกมบุกได้ดีกว่า อารอน วาน-บิสซาก้า แถมในช่วงเวลานั้น ยังเล่นเกมรับได้ดีกว่าแบ็คชาวอังกฤษอีก นั้นจึงทำให้เขายึดตัวหลักมาครองในยุคของรังนิก แม้จะฟอร์มหลุดบ้างในบางเกม
จนมาในปัจจุบันฤดูกาล 2022/23 ในยุคของกุนซือชาวดัตซ์ เขาคือตัวหลักอย่างไม่ต้องสงสัย และตอนนี้เขาได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าตัวแสดงผลงานได้เป็นอย่างดี ทั้งการช่วยเกมรุก เกมรับที่ดุดัน แถมมีความผิดพลาดน้อยลงกว่าช่วงแรกที่เราเห็นมาก ซึ่งเขาได้พิสูจน์แล้วกับสิ่งที่เขาเคยลั่นวาจาไว้ “ในปีหน้า…ผมคาดหวังว่าจะเป็นผู้เล่นที่ดีกว่าเดิม เป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อช่วยสโมสร เพื่อช่วยเพื่อนร่วมทีมของผม ด้วยการเติบโตขึ้นและเป็นผู้ชนะ”.