คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ทัพ “ปีศาจแดง” ออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว ยืนกรานไม่ได้ขาดความเคารพต่อทีม หลังถูกต้นสังกัดแบน 1 นัด จากเหตุการณ์ที่เจ้าตัวแสดงพฤติกรรมหัวเสียเดินเข้าห้องแต่งตัวก่อนในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 ที่เพิ่งจบลงไป
เกมนัดล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ สเปอร์ส ถูกยกให้เป็นเกมที่ดี และสมบูรณ์แบบที่สุดในยุคของ เอริก เทน ฮาก แถมมีบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมตลอดทั้งเกม จนกระทั่งมีการช็อตฟีลเกิดขึ้นจากโรนัลโด้ ที่แสดงท่าทางถึงความผิดหวัง และไม่พอใจ จากที่ตัวเองถูกเรียกไปวอร์มอัพ แต่ไม่ถูกส่งลงสนาม จนเจ้าตัวเดินหนีออกจากสนามก่อนจบเกม จนกลายเป็นประเด็นใหญ่ในแคมป์ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ถูกตัดชื่อออกจากทีม และโดนลงโทษ
ล่าสุดในวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถลงตัดชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกจากทีมชุดพบ เชลซี ในวันที่ 22 ตุลาคม หลังจากแข้งโปรตุเกสมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรง และถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก จากรุ่นใหญ่ในวงการฟุตบอล และคนที่สนับสนุนของแข้งหมายเลข 7
ตามที่ เอริก เทน ฮาก กุนซือของทีมเผยหลังจบเกมกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ว่าจะมาจัดการเรื่องนี้ในภายหลัง ซึ่งวันถัดมา ทีม “ปีศาจแดง” ได้ออกแถลงการณ์สั้นๆ ใจความว่า โรนัลโด้จะไม่มีชื่อในทีมชุดบุกเยือน เชลซี คืนวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคมนี้ ส่วนนักเตะคนอื่น ก็จะเตรียมตัวฟิตซ้อมเพื่อลุ้นลงสนามต่อไป
ในขณะเดียวกัน ลอรี่ วิทเวลล์ ของ ดิ แอธเลติค และ ซามูเอล ลักเฮิร์สท์ ของ แมนเชสเตอร์ อีฟนิง นิวส์ สองนักข่าวสายวงใน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่เกิดเรื่องดังกล่าว มาจากการที่ CR7 ปฏิเสธการลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมพบสเปอร์ส โดยเจ้าตัวเดินทางกลับบ้านก่อนเกมจบ และบทลงโทษเพิ่มเติม คือเขาจะต้องถูกแยกซ้อมจากเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ เป็นเวลา 3 วัน
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกมาเปิดใจ
หลังจาก “ปีศาจแดง” มีแถลงการณ์ลงโทษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในวันนี้ด้าน CR7 ก็ได้เปิดใจผ่านโซเชียลมีเดียของตนเองทั้งเฟซบุ๊ค และอินสตาแกรม โดยมีใจคำสำคัญยืนยันว่าจะไม่ยอมแพ้ต่อแรงกดดัน และจะกลับมาร่วมกับทีมอีกครั้ง
ดาวเตะวัย 37 ปี ระบุไว้ว่า “อย่างที่ผมเคยทำมาโดยตลอดอาชีพ ผมพยายามใช้ชีวิต และเล่นด้วยความเคารพต่อเพื่อนร่วมงาน คู่แข่ง และโค้ชของผม ผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผมยังเป็นคนเดิม และเป็นมืออาชีพแบบเดียวกับที่ผมทำมาตลอด 20 ปีในการเล่นฟุตบอล และการให้ความเคารพมีบทบาทสำคัญในกระบวนการตัดสินใจของผมเสมอมา”
“ผมเริ่มต้นตั้งแต่อายุยังน้อย นักเตะที่อายุมากกว่า และมีประสบการณ์เป็นตัวอย่างที่สำคัญสำหรับผมเสมอ ดังนั้นผมจึงพยายามทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างของเด็กๆ ที่เติบโตในทุกทีมที่ผมมีส่วนร่วม น่าเสียดายที่มันเป็นอย่างนั้นไม่ได้เสมอไป และบางครั้งอารมณ์ชั่ววูบมันก็ทำให้เราพ่ายแพ้”
“ตอนนี้ ผมต้องทำงานหนักต่อไปในแคร์ริงตัน สนับสนุนเพื่อนร่วมทีม และเตรียมพร้อมสำหรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในการแข่งขัน การยอมแพ้ต่อแรงกดดันไม่ใช่ทางเลือก มันไม่เคยเป็น นี่คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเราต้องยืนหยัด อีกไม่นานเราจะได้พบกันใหม่”.