ufabet

ย้อนดู 10 แข้งเบอร์ 7 ของปีศาจแดง

ตำนานเเบอร์ 7

เมื่อพูดถึงเบอร์ 7 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกคนอาจรู้ว่าหมายเลขนี้มีมนต์ขลัง และเป็นเบอร์ของสุดยอดตำนานนักเตะหลายคน โดยในอดีตผู้เล่นที่สวมวิญญาณเบอร์ 7 มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จ และคนที่ไม่เฉิดฉายกับหมายเลขนี้ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนใครหลายคนคิดว่าเป็นอาถรรพ์ วันนี้lnwmanuจะพาทุกคนมาดูกันว่า 10 คนนี้ มีใครบ้างที่เจ๋งและใครบ้างที่เจ๊ง

1. จอร์จ เบสต์ : 1963-1974

จอร์จ เบสต์ หรือในฉายาเทพบุตรมหาภัย แข้งสุดหล่อขวัญใจสาวในยุคนั้น ถือเป็นตำนานหมายเลข 7 คนแรกกับสโมสร ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นนักเตะที่มากมายด้วยพรสวรรค์ ทั้งความเร็ว การทรงตัว วิสัยทัศน์ การควบคุม ความสามารถในการสร้างสรรค์เกม และการยิงประตู ถือได้ว่าเป็นนักเตะที่ครบเครื่องสุดๆ ถึงขนาดแข้งในตำนานอย่างเปเล่ยังออกมาให้การยอมรับ

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 474 เกม ยิงประตูทั้งหมด 181 ลูก – ดิวิชั่น 1(ลีกสูงสุด) 2 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 1 สมัย, นักเตะแห่งปีฟุตบอลไรท์เตอร์ 1 สมัย, บัลลงดอร์ 1 สมัย และ บัลลงดอร์อันดับสาม 1 สมัย


2. ไบรอัน ร็อบสัน : 1981-1994

ไบรอัน ร็อบสัน หรือในฉายากัปตันมาร์เวล เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่พาปีศาจแดงกับมาครองความยิ่งใหญ่อีกครั้ง จากการรอคอยอันยาวนานถึง 26 ปี โดยกัปตันปีศาจแดงผู้นี้เปรียบเหมือนเพชรแท้ที่ส่องประกาย

ทั้งความเร็ว ลูกยิงที่หนักหน่วง พละกำลังที่ไม่มีวันหมด การเข้าปะทะที่ดุดัน ทักษะการจ่ายบอล หรือลูกกลางอากาศ เขาสามารถทำทุกอย่างได้อย่างดีเยี่ยม โดยบทบาทสำคัญอีกอย่างของตำนานเบอร์ 7 ผู้นี้คือ เขาจะไม่หยุดตราบใดที่ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น ถือเป็นฮีโร่สำหรับแฟนปีศาจแดงในยุคนั้น และยังสมดั่งฉายากัปตันมาร์เวล

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 461 เกม, ยิงประตู 99 ลูก – พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย และ ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย


3. เอริค คันโตน่า : 1992-1997

เอริค คันโตน่า หรือในฉายาเอริค เดอะ คิง ถือเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จกับหลายสโมสร และยังเป็นหนึ่งในผู้เปิดยุคทองให้ปีศาจแดง โดยเจ้าตัวอยู่ในยุคเดียวกับ ไบรอัน ร็อบสัน และรับหมายเลข 7 ต่อมา ซึ่งเดอะคิงเปรียบเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ขาดไปของยูไนเต็ด เพราะฤดูกาลแรกที่เขาก้าวมารวมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็สามารถเถลิงบัลลังก์แชมป์ฺกว่า 3 ทศวรรษได้ทันที

คันโตน่ามีความสามารถทางเทคนิค ที่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์ มึความเป็นผู้นำ และมีอิทธิพลต่อทุกคนทั้งนักเตะ และแฟนบอล หากเขาคิดว่าอะไรเป็นไปได้ คุณก็จะเชื่อมั่นอย่างนั้นตามเขาไปด้วย แถมเขายังสร้างความตื่นตาตื่นใจในสนามได้ในแบบเดียวกับที่ จอร์จ เบสต์ ได้ทำไว้ จนเจ้าตัวถูกขึ้นหิ้งให้เป็นตำนานอย่างรวดเร็ว

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 185 เกม, ยิงประตู 82 ลูก – พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, นักเตะแห่งปีฟุตบอลไรท์เตอร์ 1 สมัย และ บัลลงดอร์อันดับที่สาม 1 สมัย


4. เดวิด เบ็คแฮม : 1992-2003

เดวิด เบ็คแฮม หรือในฉายาเท้าชั่งทอง ถือเป็นหนึ่งในนักเตะชุดคลาส 92 และเป็นหนึ่งในนักเตะที่พาปีศาจแดงคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ โดยลูกยิงของเขาถือเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ที่ทำให้ใครหลายคนในยุคนั้นอยากเลียนแบบ และหลงไหลเป็นอย่างมาก แม้เจ้าตัวจะไม่มีความเร็วที่จัดจ้าน และไม่มีลีล่าในการกระชากบอลที่สวยงามเหมือนหมายเลข 7 คนอื่นๆ

แต่เขาทดแทนมันด้วยความแม่นยำที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขา ทั้งลูกยิง ทักษะการจ่ายบอล หรือจะเป็นลูกฟรีคิกสุดเท่ที่กำหนดทิศทางได้ราวกับกดรีโมท จึงทำให้เด็กหลายคนในยุคนั้นจินตนาการอยากที่จะเป็นเหมือนกับเขา โดยประตูแจ้งเกิดที่ทำให้ทุกคนต้องรู้จักเทพบุตรสุดหล่อรูปนี้คือ จังหวะการวางเท้ายิงไกลครึ่งสนามใส่วิมเบิลดัน

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 389 เกม ยิงประตูทั้งหมด 83 ลูก แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 80 ครั้ง – พรีเมียร์ลีก 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และ อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ 1 สมัย


5. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ : 2003-2009

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือในฉายาซีอาร์เซเว่น ถือเป็นนักฟุตบอลที่ฟรีเท้าดีอันดับต้นของโลก ซึ่งโรนัลโด้มีพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลมาก เขาใช้เวลาเพียงไม่นานในการปรับตัวก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้เล่นในใจแฟนบอลของปีศาจแดงทันที

ซึ่งเจ้าตัวมีความสามารถในการเล่นปีกซ้าย-ขวา หรือกองหน้าต่ำ ถือว่ามีทักษะต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมมาก มาพร้อมความแข็งแกร่ง บวกกับลีลาการลากเลื้อย และท่าฟรีคิกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จึงทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาอย่างว่องไว โดยที่มาของฉายาซีอาร์เซเว่น เจ้าตัวได้มาจากการลงสนามให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยเสื้อหมายเลข 7

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 292 เกม, ยิงประตู 118 ประตู – พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย, บัลลงดอร์ 1 สมัย, นักเตะยอดเยี่ยม ฟีฟ่า 1 สมัย. นักเตะแห่งปีฟุตบอลไรท์เตอร์ 2 สมัย, นักเตะยอดเยี่ยม พีเอฟเอ 2 สมัย, นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม พีเอฟเอ 1 สมัย และมีชื่อเข้าชิง นักเตะยอดเยี่ยม ฟีฟ่า 2 สมัย


6. ไมเคิ่ล โอเว่น : 2009-2012

ไมเคิ่ล โอเว่น หรือในฉายาเบบี้โกลด์ ได้รับเบอร์ 7 ต่อจากโรนัลโด้หลังจากสตาร์ดังย้ายไปร่วมทัพราชันชุดขาว ซึ่งเบบี้โกลด์ถือเป็นอดีตหัวหอกที่โด่งดังกับลิเวอร์พูล และยังเคยคว้าบัลลงดอร์ได้หนึ่งสมัยกับทัพหงส์แดง

แต่กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าตัวกับโชว์ฟอร์มที่โดดเด่นได้เพียงนิดเดียว ซึ่งตลอดฤดูกาล 2009 เขาผลิตสกอร์ให้ปีศาจแดงเพียง 9 ประตูเท่านั้น จากการลงเล่น 31 นัด จึงทำให้ตลอด 3 ฤดูกาลในโรงละครแห่งความฝันเจ้าตัวมีบทบาทไม่มากหนักกับสีเสื้อปีศาจแดง

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 52 เกม, ยิงประตู 17 ลูก – พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และ ลีก คัพ 1 สมัย


7. อันโตนิโอ วาเลนเซีย : 2009-2019 (สวมเบอร์ 7 ในฤดูกาล 2012-2013)

อันโตนิโอ วาเลนเซีย หรือในฉายารถด่วน(ปีกนายร้อย) ได้รับหมายเลข 7 ต่อจาก ไมเคิ่ล โอเว่น ซึ่งเจ้าตัวถือได้ว่ามีความอึด ความขยัน และมีความเร็วที่สูงสุดๆ โดยทำความเร็วไปถึง 35.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคยถูกทางฟีฟ่าบันทึกว่าเร็วที่สุดในโลก

โดยผลงานเบอร์เสื้อหมายเลข 7 กับทัพเจ้าตัวถือว่าทำได้ย่ำแย่สุดๆ เพราะตลอดฤดูกาล 2012-2013 จากการลงสนามทั้งหมด 40 นัด ยิงประตูได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น วาเลนเซียจึงเลือกที่จะกลับมาใส่เบอร์ 25 เบอร์แรกที่ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเจ้าตัวคิดว่าเป็นเบอร์ที่โชคดีสำหรับเขา

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 339 เกม, ยิงประตู 25 ลูก – พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 1 สมัย


8. อังเคล ดิ มาเรีย : 2014-2015

ดิ มาเรีย หรือในฉายาเส้นบะหมี่ เข้ามาร่วมทัพปีศาจแดงด้วยค่าตัวสถิติสโมสร ซึ่งเจ้าตัวได้รับเสื้อหมายเลข 7 ทันทีหลังจากที่ย้ายมา โดยในเวลานั้นทุกคนต่างคาดหวังกับเขาไว้สูง เนื่องจากดาวเตะอาร์เจนไตน์ทำผลงานกับต้นสังกัดเก่าอย่าง ราชันชุดขาว ได้ยอดเยี่ยมสุดๆ

แต่กับทัพปีศาจแดงเขามีอาการบาดเจ็บรบกวน บวกกับการปรับตัว และปัญหาต่างๆ ในเวลานั้น ทำให้เขาชิ่งทิ้งทีมไปเซ็นร่วมทัพกับปารีส แซงต์-แชร์กแมงในฤดูกาลถัดไปทันที จึงทำให้เหล่าสาวกปีศาจแดงเกลียดในตัวนักเตะชาวอาร์เจนไตน์รายนี้ และตามสาปแช่งไปทุกห่นทุกแห่ง

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 32 เกม และยิงประตู 4 ลูก


9. เมมฟิส เดปาย : 2015-2017

เมมฟิส เดปาย หรือในฉายานิว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถือเป็นนักฟุตบอลที่มีลีลากระชากลากเลื้อยที่น่าตื่นตา บวกกับลูกฟรีคิกที่ถือว่าเป็นไม้ตาย และการันตีการถล่มประตูจนเป็นดาวซัลโวลีกเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ ทำให้นายใหญ่ในเวลานั้นเรียกร้องให้สโมสรรีบดึงดาวรุ่งคนนี้มาร่วมทัพ พร้อมยื่นหมายเลขของตำนานให้ทันที

แต่กลายเป็นว่าตลอดการค้าแข้งในโรงละครแห่งความฝัน เดปายทำผลงานได้ย่ำแย่สุดๆ เหมือนเป็นคนละคนกับดาวซัลโวฮอนแลนด์คนนั้น ซึ่งคงเป็นเพราะการปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษ หรืออาจเป็นเพราะความกดดันกับหมายเลขที่ได้รับ จึงส่งผลให้เจ้าตัวไม่สามารถระเบิดฟอร์มเทพได้ จนสุดท้ายก็ต้องเก็บกระเป๋าออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดในที่สุด

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 53 เกม, ยิงประตู 7 ลูก – เอฟเอ คัพ 1 สมัย (ไม่มีชื่อติดทีมในเกมนัดชิงชนะเลิศ)


10. อเล็กซิส ซานเชซ : 2018-ปัจจุบัน

อเล็กซิส ซานเชซ หรือในฉายาเจ้ากระรอกน้อย ถือเป็นนักฟุตบอลที่ครบเครื่อง และมีทักษะสูง ทั้งการยิง การจ่ายบอล การจับบอล ความเร็ว และการเลี้ยงลุยอันเหนือชั้น จึงเป็นเหตุผลที่สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมควักเงินจ่ายค่าเหนื่อยอันแพงมหาศาล

แต่เมื่อเจ้าตัวมาร่วมทัพปีศาจแดงในฤดูกาลแรก ชื่อเสียงทุกอย่างก็ต้องดับลงทันที เพราะเจ้าตัวไม่สามารถเล่นเข้ากับแท็กติกของโชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือในเวลานั้นได้ และยังบวกกับอาการบาดเจ็บที่บ่อยครั้ง สุดท้ายสโมสรก็ต้องเลือกปล่อยเขาไปร่วมทัพอินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล และก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตของซานเชซ กับยูไนเต็ดจะฉายแสง หรือดับลง

ผลงานกับสโมสร : ลงสนาม 45 เกม และยิงประตู 5 ลูก


จากบรรดานักเตะทั้ง 10 คน จะเห็นได้ว่าช่วง 1 ทศวรรษ ตั้งแต่ 2010-2020 บรรดาแข้งที่สวมเสื้อเบอร์ตำนานอย่าง หมายเลข 7 ต่างก็เข้ามาล้มเหลวไม่เป็นท่ากันหลายราย และสาวกปีศาจแดงก็คงต้องรอกันต่อไปว่าใครกัน จะมาสานต่อเบอร์ 7 ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น