ทีมของ เอริก เทน ฮาก โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงปรีซีซั่น แม้จะเป็นแค่เกมอุ่นเครื่อง แต่เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายจากซีซั่นก่อนที่มึดมน โค้ชชาวดัตซ์ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งเรื่องระบบการเล่นที่ไม่เป็นรูปเป็นร่าง, ทำให้การฝึกซ้อมเขี้ยวกว่าเดิม และยังนักเตะที่ฟอร์มฝืดก็กลับมาเล่นดีขึ้น บทความนี้ เทพแมนยู จึงอยากพาสาวก “เร้ดส์ อาร์มี่” ไปวิเคราะห์สถานการณ์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนฤดูกาลใหม่จะเริ่มในสุดสัปดาห์นี้
ตัวรุก 3 ประสาน
ตัวรุก 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง จาดอน ซานโช่, อองโตนี่ มาร์ซิยาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ต่างทำประตูตุงตะข่ายได้อยู่ตลอดในช่วงปรีซีซั่น ซึ่งในฤดูกาลก่อน 3 แข้งที่เอ๋ยมา ฟอร์มฝืดจับ และไม่สามารถดึงศักยภาพของตัวเองได้เลย ทั้งเรื่องความเร็ว, ความคล่องแคล่ว และลีลา โดยเฉพาะ มาร์ซิยาล ที่ผลงานดับเงียบหายที่สุด
แต่พอมาในยุคของ เทน ฮาก ทำให้เห็นว่าทั้ง 3 คน มีศักยภาพมากขึ้นเมื่ออยู่ในมือเขา ตลอดการคุมทีมช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โค้ชชาวดัตซ์มักจะเขี้ยวในเรื่องการจ่ายบอล การทำงานเป็นทีม และเน้นเกมรุกเป็นส่วนมาก ไม่แปลกที่เราจะเห็นได้ว่า ซานโช่, มาร์ซิยาล และ แรชฟอร์ด จะมีความอันตรายเพิ่มขึ้นกว่าซีซั่นก่อน ซึ่งต่อจากนี้คงต้องรอดูผลงานในช่วงเปิดฤดูกาล ว่าผลงานจะดี หรือแย่ และการที่ได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมา พวกเขาจะได้จับคู่ลงด้วยกันไหม
โรนัลโด้ ยังสำคัญอยู่ไหม
แนวรุก 3 ประสานที่เอ๋ยมาก่อนหน้านี้ ดูจะมีความลงตัวที่สุดในตอนนี้ แต่ถ้าจะให้แมนยูมีความอันตรายที่สุด การที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในทีมมันจะดีกว่ามาก สถิติ CR7 ออกสตาร์ทตัวจริงฤดูกาลที่ผ่านมา จาก 35 เกม ชนะ 17, เสมอ, 7 และแพ้ 11 โดยเปอร์เซ็นชนะ 48.5% ได้ประตูถึง 55 ประตู ซึ่งต่างจากตอนไม่มี โรนัลโด้ เป็นตัวหลัก จาก 14 เกม ชนะ 3, เสมอ 7, แพ้ 4 เปอร์เซ็นชนะเพียง 21.4% ได้ประตู 16 ประตู
มองจากจุดนี้แล้ว การที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังอยู่ในทีม แมนยูจะมีความอันตรายกว่าอย่างแน่นอน สตาร์โปรตุกรีสมีทักษะสูงคนหนึ่งของโลก แถมเรื่องความเฉียบคม และหาจังหวะในการจบสกอร์ เขายังทำได้ดีกว่ารุ่นน้องในทีม ณ ตอนนี้ เมื่อใดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นกันแบบทีมเวิร์คมากขึ้น เชื่อเลยว่า โรนัลโด้ มีสิทธิ์ทำประตูเป็นกอบเป็นกำมากกว่าซีซั่นก่อนแน่นอน
กองกลางที่คาดว่าจะเป็นตัวหลัก
กองกลางที่ได้รับโอกาสลงสนามมากที่สุดในช่วงปรีซีซั่นยุคของ เทน ฮาก ก็ยังคงเป็น สกอตต์ แมคโทมิเนย์ และ เฟร็ด เชื่อว่าแฟนแมนยูเมื่อได้ยินชื่อของทั้ง 2 คนคงปวดใจ เพราะผลงานในซีซั่นก่อนของพวกเขา บอกเลยว่าสอบตก แต่เมื่อแมนยูยังไม่ได้กองกลางตัวรับคนใหม่สักที การที่ 2 คนนี้ลงเป็นตัวหลัก ดูจะเหมาะสมที่สุดแล้ว และก็เชื่อว่า บรูโน่ แฟร์นานเดส ยังจะได้เป็นตัวหลักในตำแหน่งกลางรุก แม้ฟอร์มจะสวิงอยู่
สำหรับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ที่เราหวังจะเห็นเขาเฉิดฉายกับโค้ชชาวดัตซ์ ตอนนี้กับทำได้ไม่ดีเลยเมื่อได้รับโอกาส ตลอดช่วงปรีซีซั่น ดอนนี่ ไม่ได้ทำผลงานอะไรได้โดดเด่นมากหนัก มิหนำซ้ำ เทียบเรื่องความมีประโยชน์ แมคโทมิเนย์ ถือว่าทำได้ดีกว่ามาก ซึ่งถ้าฟอร์มของ ฟาน เดอ เบค ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอันอยู่แบบนี้ เชื่อว่า เทน ฮาก คงตัดสินใจใช้งาน คริสเตียน อีริคเซ่น ที่เพิ่งดึงตัวมาใหม่ มากกว่าเขาแน่นอน
คีย์แมนที่แมนยูยังขาด
ตำแหน่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการ และเป็นคีย์แมนสำคัญ คือ นักเตะที่คอยทำเกมจากแนวลึก ผู้เล่นที่สามารถสร้างสรรค์เกมจากแดนหลัง ขึ้นมาสู่แดนหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพักบอล ดึงจังหวะเกม วางบอลยาวจากหลังขึ้นหน้า ทั้งแนวกว้าง และแนวลึก ทั้งลูกเรียด และลูกโด่ง และทำให้เพื่อนอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบโดยใช้จังหวะน้อยที่สุด รวมถึงมีความสามารถในการตัดเกม
ซึ่งที่กล่าวมาก็คือ แฟรงกี้ เดอ ยอง แต่นักเตะที่เป็นเป้าหมายอันดับ 1 ในตลาดรอบนี้ แมนยู ยังไม่สามารถดึงมาได้สักที และการเจรจาก็ยืดเยื้อมา 2 เดือนกว่า แถมยังไม่มีท่าทีว่าจะได้บทสรุปแต่อย่างใด ซึ่งหากสุดท้าย “ปีศาจแดง” ได้ เดอ ยอง มาร่วมทัพ แดนกลางของทีมจะน่ากลัว และแข็งแกร่งกว่าเดิมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าไม่ได้ก็คงต้องทำใจ นั่งดู แมค กับ เฟร็ด กันต่อไป
ใครเหมาะจะเป็นแบ็ค ซ้าย-ขวา
เริ่มจากแบ็คขวา ดูแล้ว เอริก เทน ฮาก น่าจะชอบสไตล์ของ ดิโอโก้ ดาโลต์ มากที่สุด แถมเขายังพัฒนาได้อีก ตลอด 3 เกมแรกในช่วงปรีซีซั่น ดาโลต์ ได้รับโอกาสในการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก่อนเสมอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เทน ฮาก ชื่นชอบทักษะในแนวรุกของเขา และเกมรับของเขามากกว่า อารอน วาน-บิสซาก้า ที่จะรุกก็แย่ จะรับก็แย่เช่นกัน วาน-บิสซาก้า ได้รับโอกาสลงสนาม แต่มักจะโดนคู่แข่งเจาะจากทางฝั่งเขาซ่ะเป็นส่วนใหญ่
ทางแบ็คซ้าย คาดว่า เอริก เทน ฮาก ยังหาตัวเลือกในใจไม่ได้ ดูจากการที่เขาให้ ลุค ชอว์ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย สลับกันลงตัวจริงทีละนัด ซึ่งต้องบอกก่อนว่าทั้งสอง มีจุดเด่น และจุดด้อยต่างกัน จากช่วงปรีซีซั่น ไทเรลล์ มาลาเซีย ยังไม่เฉิดฉายมากหนัก แต่ด้วยสถิติจากฤดูกาลก่อน มาลาเซีย ทำได้ดีกว่า ชอว์ อยู่มาก แต่อย่าลืมว่าที่นี้ พรีเมียร์ลีก การแข่งขันดุเดือดกว่า โอกาสที่ ลุค ชอว์ จะสตาร์ทเป็นตัวหลักน่าจะสูงกว่า ส่วน อเล็กซ์ เตลเลส คาดว่าจะเป็นสำรองอีกที ดีไม่ดีอาจจะชิงย้ายทีมก่อน
กองหลังเซ็นเตอร์
ช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา ตำแหน่งเซ็นเตอร์ ยังคงเป็นตำแหน่งที่หาจุดลงตัวไม่ได้ ไม่ว่าใครจะยืนคู่ใครก็ยังมีข้อผิดพลาดให้เห็น เกมอุ่นเครื่อง 6 นัดที่ผ่านมา แมนยู เก็บคลีนชีทได้ไม่ถึง 4 เกม และเป็นความผิดพลาดของกองหลังซ่ะส่วนมาก แต่ผลงานส่วนบุคคล ลิซานโดร มาร์ติเนซ ถือว่าทำได้ดี แต่ต้องพิสูจน์ในเกมลีก ว่าผลงานจะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตามแฟนแมนยูอาจจะไม่ปลื้ม แต่จากการจัดตัวหลักในช่วงเกมอุ่นเครื่องของ เทน ฮาก เชื่อได้เลยว่า แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กัปตันทีมคนเก่ง อาจจะยังคงยืนเป็นตัวหลัก โดยอาจจะสลับคู่กับ ราฟาเอล วาราน, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ เอริค ไบญี่ จนกว่าจะเจอคู่หลัก
อนาคตของดาวรุ่งที่ได้โอกาสในช่วงปรีซีซั่น
เกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา บรรดาดาวรุ่งต่างโชว์ความสามารถ จังหวะกระชากลากเลื่อย ลูกขยัน การตัดบอล เทคนิคส่งบอลแบบหวือหวา และการจบสกอร์เพื่อพิสูจน์ให้ เอริก เทน ฮาก ได้เห็น แต่การลงเล่นในลีกอังกฤษที่มีการแข่งขันสูง เมื่อต้องเจอกับทีมที่มีแท็คติกส์แน่นๆ และผู้เล่นที่มีสกิล ต้องบอกเลยว่าเยาวชนเล่านี้ ประสบการณ์ และชั่วโมงบินยังไม่เพียงพอในเวทีใหญ่
ดาวรุ่งบางคนยังไม่ทันเหลี่ยม และเทคนิคของบรรดารุ่นพี่ในลีก ซึ่งคนที่ต่างชอบเด็กเหล่านี้ อาจจะได้เห็นพวกเขาน้อยลง เพราะเชื่อเลยว่า โค้ชชาวดัตซ์อาจจะปล่อยยืมบรรดาแข้งเยาวชน ออกไปเป็นส่วนใหญ่ เพื่อไปพัฒนาตัวเอง เก็บประสบการณ์ก่อน และค่อยดึงผู้เล่นที่ผลงานดีมารับใช้ทีมในอนาคต.