ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เว็ปไซต์แมนเชสเตอร์ มีการประกาศปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ลงจากตำแหน่ง หลังจากคุมทีมมาเกือบสามปีในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยกุนซือชาวนอร์เวย์พาทัพปีศาจแดง ทำผลงานได้ย่ำแย่สุดๆ ในฤดูกาลนี้ แพ้ 5 จาก 7 เกมหลังสุดในลีก อยู่ได้เพียงอันดับ 8 ของตารางคะแนน สโมสรจึงตัดสินใจแยกทางกับเขา และแต่งตั้ง ไมเคิ่ล คาร์ริค รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราว
โอเล่ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกทั้งน้ำตา หลังเขาออกจากบทบาทผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเขาให้สัมภาษณ์กับ สจ๊วร์ต การ์ดเนอร์ ผู้สื่อข่าวของสโมสร โดยมีใจความดังนี้
สจ๊วร์ต การ์ดเนอร์ กล่าวเริ่ม :โอเล่ วันนี้เป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับคนจำนวนมากที่ชื่นชมคุณ แต่คุณเลือกที่จะพูด
“คุณรู้ว่าสโมสรแห่งนี้มีความหมายกับผมมากแค่ไหน และผมต้องการประสบความสำเร็จที่นี่ เพื่อสโมสร, เพื่อแฟนบอล, เพื่อนักเตะ, เพื่อทีมงาน ผมต้องการพาเราก้าวขึ้นไปอีก เพื่อลุ้นแชมป์ลีก, เพื่อกลับมาเป็นแชมป์ ผมคิดว่ามันคงถูกต้องถ้าทุกอย่างออกมาจากปากผมเอง มีนักข่าวหลายคนขอสัมภาษณ์ผมแต่ผมปฏิเสธ ผมจะไม่ให้สัมภาษณ์กับใครทั้งนั้น ผมจะเดินออกไปตรงๆ เพราะผมคิดว่าทุกคนรู้ดีว่าผมทุ่มเททุกอย่างเพื่อสโมสรแห่งนี้ สโมสรแห่งนี้มีความหมายทุกอย่างกับผม และเราเข้ากันได้ดี แต่เสียดายที่ผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่เราต้องการ และถึงเวลาที่ผมต้องหลีกทาง”
เกือบสามปีแล้ว คุณมองย้อนกลับไป คุณภูมิใจไหม?
“ภูมิใจมาก เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมฝันมาตลอดชีวิต เมื่อคุณได้เป็นนักเตะ, เป็นโค้ชทีมสำรอง ความฝันเดียวที่ยังไม่ได้ทำก็คือเฮดโค้ช และผมได้ทำแล้วตอนนี้ ผมสนุกกับมันตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย ผมต้องขอบคุณนักเตะทุกคน เพราะตั้งแต่ผมเข้ามาคุมทีม ทุกคนเป็นนักเตะที่สุดยอด และเป็นคนที่ยอดเยี่ยม บางคนเข้ามา บางคนจากไป แต่ทุกคนทำให้ผมสนุกมากที่ได้ร่วมงานด้วย
อย่างแรกเลย ผมต้องขอบคุณบอร์ดบริหาร และเจ้าของทีมที่ให้โอกาส เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโอกาสนี้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับความไว้วางใจให้พาสโมสรไปข้างหน้า ผมหวังว่าผมจากไปในจุดที่ดี กว่าตอนผมเข้ามา ผมได้เพื่อนที่ดี และได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าบางคน สต๊าฟฟ์ใหม่เข้ามา และเรากลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน สำหรับแฟนบอล แฟนบอลนั้นมหัศจรรย์เสมอ จากวันแรกที่คาร์ดิฟฟ์จนถึงวันสุดท้ายตอนนี้ พวกเขาสุดยอดมาก และเราจะได้พบกันอีกครั้ง”
ความทรงจำในช่วงสามปีที่ผ่านมา เป็นวันพิเศษใช่มั้ย?
“แน่นอน มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงประตูในสามนาที หรืออะไรประมาณนั้น, เราชนะต่อเนื่อง ผมไม่รู้ว่ากี่เกมแต่เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจเช่นกัน, ชัยชนะที่เราสร้างด้วยกัน มันเป็นสถิติของตัวมันเอง, ชัยชนะ 10 เกมแรก หรืออะไรทำนองนั้น ผมไม่ค่อยแม่นเรื่องตัวเลข แต่รู้ว่าเราทำได้ดี
แล้วก็สถิติไร้พ่ายเกมเยือน เราไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ผม, ไมค์ ฟีแลน, ไมเคิล คาร์ริค, คีแรน แม็คเคนนา เราไม่ใช่คนแบบนั้น แต่นั้นเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจเมื่อมองย้อนกลับไป”
เราควรพูดถึงปารีสด้วยไหม?
“ใช่ คืนนั้นอาจเป็นคืนแรกที่เด็กๆ เข้าใจถึงความเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แท้จริง เพราะตอนนั้นเราเป็นรองมาก ทุกคนคิดว่าเราไม่มีโอกาสผ่านเข้ารอบในการพบกับทีมที่ดีมาก แต่พวกเขาโชว์ความเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่น่าภาคภูมิใจ ฟอร์มการเล่นในวันนั้นผมจะจำไว้ มันเป็นภาพที่สวยงามสำหรับผมที่ได้เห็นเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ เอริค คันโตน่า ฉลองชัยชนะ และบางคลิปวิดีโอที่ยอดเยี่ยมจากห้องแต่งตัว เป็นความทรงจำที่ดีสุดๆ”
แล้วการสร้างทีมขึ้นมาใหม่? คุณสร้างทีมมาตลอดสามปี และกำลังจะจากไปอย่างน่าเศร้า ตอนนี้คุณคิดว่าทีมพัฒนาขึ้นไหม?
“ผมพูดมาหลายครั้งในการสัมภาษณ์ ผมได้รับการสนับสนุน บอร์ดบริหาร และเจ้าของทีมสนับสนุนผมในส่วนของการซื้อตัวนักเตะที่ดี และผมคิดว่าผมจากไปพร้อมกับทีมที่ดีขึ้น บรรยากาศทีมมหัศจรรย์มาก มันเป็นบรรยากาศที่ผมภูมิใจที่จากมา เพราะคุณต้องสนุกในการทำงานที่นี่ ผมไม่อยากจะพูดดักไว้ แต่สองครั้งที่ผมออกจากโมลด์ พวกเขาคว้าแชมป์ลีกได้ในปีต่อมา ผมขอให้คนที่มารับช่วงต่อทำงานออกมาดี นั่นคือความคาดหวัง!”
อะคาเดมี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่คุณทำ นำผู้เล่นอายุน้อยผ่านสิ่งนั้นเช่นกัน ฉันคิดว่าอะคาเดมี่ได้รับการฟื้นฟูอย่างชัดเจนในยุคของคุณ
“นั่นคือแมนฯ ยูไนเต็ด มันอยู่ใน DNA ของแมนฯ ยูไนเต็ด เราต้องดึงคนที่ดี และผู้เล่นที่ดีเข้ามา และเราทำได้ดี อะคาเดมี่ที่ตอนนี้มี นิค ค็อกซ์ ดูแล และแน่นอนว่าเพื่อนที่ดีของฉัน (มาร์ค เดมป์ซีย์) มีส่วนร่วมอย่างมาก และฉันแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า เราจะได้เห็นผู้เล่นดีๆ ผ่านเข้ามา”
ผมไม่ได้หวังว่าคุณจะเข้าไปอ่านโซเชียลมีเดียในวันนี้ แต่มีแฟนๆ หลั่งไหลเข้ามามากมาย คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนๆ เสมอ ไม่ใช่แค่ในช่วงสามปี แต่รวมถึง 25 ปีด้วย แล้วข้อความของคุณจะเป็นอย่างไร?
“ให้การสนับสนุนทีมนี้ต่อไป คุณต้องผูกพันกับพวกเขา แฟนบอลมหัศจรรย์กับผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ สมัยที่ผมยังเป็นผู้เล่น จนถึงตอนนี้ และผมแน่ใจว่าเราจะได้กลับมาพบกันอีก เพราะถ้ามีซักที่ ที่ผมจะดูเกมฟุตบอล ที่นั่นคือที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด”
เราจะได้พบคุณอีกไหม?
“แน่นอน ถ้าคุณอยากให้ผมอยู่ข้างคุณ ผมจะอยู่ตรงนั้น ผมภูมิใจกับสิ่งที่ทำ และเพื่อนดีๆ ที่ได้เจอ ผมขออวยพรให้ทุกคนเจอแต่สิ่งที่ดี คุณรู้จักทีมงานที่ทำงานที่นี่ดี เราเคยผ่านคำวิจารณ์มามากมาย แต่วิธีที่พวกเขาปฏิบัติ และวิธีการทำงาน, ความรู้, ทัศนคติ ผมชื่นชมพวกเขามาก ปกติผมขับรถไปถึงสนามซ้อมตอนเจ็ดโมงครึ่ง และคิดว่า วันนี้ผมต้องไปถึงก่อนพวกเขาแน่นอน แต่ไม่เลย ไม่เคยมีวันนั้นเกิดขึ้น”
ตอนคุณเข้ามาคุมทีม เราอยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบาก แต่คุณพาทีมจบที่หกในฤดูกาลแรก, จากนั้นที่สามและที่สอง เมื่อมองย้อนไป มันคือสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นความสำเร็จ หรือไม่?
“ผมภูมิใจกับสิ่งที่ทำได้ ตอนแรกเลยมันสนุกมาก แต่จากนั้นเราจบที่สาม ผมรักเกมสุดท้ายที่ เจสซี่ ลินการ์ด ยิงประตูได้ วิธีที่เราเล่นด้วยกัน และได้อันดับสาม, มันมหัศจรรย์มาก เป็นความพยายามที่ยอดเยี่ยมของทุกคน และของทีมงาน
อันดับสองในฤดูกาลต่อมา อยู่เหนือหนึ่งในทีมที่ดีสุดของยุโรป ผมคิดว่าเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน และเราทำได้ใกล้เคียงมากในถ้วยยุโรป พลาดไปเพียงจุดโทษลูกเดียว ผมรู้ว่าเรามีรากฐานของทีมที่วางไว้ ผมรู้ว่าพวกเขาพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ และผมมั่นใจว่าพวกเขาจะทำได้”
สิ่งหนึ่งที่คนพูดถึงตลอดเกี่ยวกับคุณคือถ้วยแชมป์ คุณคิดว่าถ้วยแชมป์มีความสำคัญ หรือไม่ คุณทำได้ใกล้เคียงมาก
“ใช่ คุณจะพูดแบบนั้น และมองกลับไปแล้วบอกว่า ถ้าคุณคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก คงจะเป็นความสำเร็จ แต่คุณรู้ไหม มันไม่ใช่เรื่องของถ้วยรางวัลเสมอไป และมันไม่ใช่ทุกอย่าง ผมรู้ว่าวันนั้น เราต้องการฉลองชัยชนะด้วยถ้วยรางวัล แต่นั่นถือเป็นรางวัลที่ดี เรารู้งานที่เราทำมันสำคัญมาก การเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และทำได้ใกล้เคียง เราต้องตัดสินใจครั้งสำคัญมากๆ มาตลอดทาง โชคร้ายที่เรายิงจุดโทษไม่เข้าทั้ง 11 ครั้ง คุณจะหัวเราะมันก็ได้ แต่ผมมองย้อนกลับไปทุกวินาทีด้วยความภูมิใจ”
มันคงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงที่ผ่านมาโอเล่, ต่อไปสำหรับคุณจะทำอะไรต่อ?
“ผมจะใช้เวลากับครอบครัว นั่นอาจเป็นส่วนที่ยากสุด, ด้วยเรื่องของโรคระบาด นอร์เวย์เปิดประเทศแล้วแต่ที่นี่ยังปิด ครอบครัวของผมย้ายกลับนอร์เวย์ เด็กๆ ชอบกลับไปที่นั่น ทำให้เราต้องแยกกัน ดังนั้นผมผมจะกลับไปใช้เวลากับพวกเขา
จากนั้นผมจะคอยดูทีม และหวังว่าโค้ชคนใหม่จะเข้ามา และผมอยากสนับสนุนเขา ผมอยากให้เขาประสบความสำเร็จ หวังว่าผมได้วางรากฐานสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นไว้แล้ว ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าผมได้สร้างสภาพแวดล้อมทางฟุตบอลที่ดี และเมื่อถึงเวลาผมอาจกลับมาทำงานในวงการฟุตบอลอีก”
คุณจะยังเป็นแฟนบอลของเราอยู่ห่างๆ ใช่ไหม?
“ผมเป็นแฟนตัวยงของทีม และหวังว่านักเตะจะได้รับสิ่งที่ดีสุด มีนักเตะที่ดีมากๆ อยู่ที่นี้ และมีคนที่ดีอยู่ด้วย ผมมั่นใจว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จ”
คุณจะได้รับการต้อนรับเสมอที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
“ฉันก็หวังอย่างนั้นอยู่แล้ว”
มันยอดเยี่ยมมาก เมื่อได้แลกเปลี่ยนกับคุณ ขอบคุณมาก.
“ขอบคุณมาก. แล้วพบกันใหม่ครับ”.