ufabet

คลาส ออฟ 92 : เหล่าเด็กหนุ่มผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ ที่โลกไม่เคยลืม

หากพูดถึงอะคาเดมี่ที่สร้างนักเตะฝีเท้าดี มาประดับวงการฟุตบอลอย่างมากมาย เราต่างต้องมองไปที่ศูนย์ฝึกเยาวชนของอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม หรืออาจจะที่ศูนย์ฝึกลา มาเซีย ของ บาร์เซโลน่า และอีกที่คือ อคาเดเมีย ของสปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่ง 3 ที่นี้ ถือเป็นยอดทีมที่ปั้นนักเตะฝีเท้าดี มาป้อนสู่โลกฟุตบอลมากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่สโมสรจากเมืองแมนเชสเตอร์ เคยสร้างความฮือฮาเขย่าวงการลูกหนัง โดยการผลิตนักเตะฝีเท้าดีออกมาพร้อมกันถึง 6 คน จากทีมเยาวชน ป้อนสู่ทีมชุดใหญ่ พวกเขาเหล่านั้นถูกเรียกขานว่า คลาส ออฟ 92

คลาส ออฟ 92 คือเหล่าเด็กหนุ่มที่ขึ้นมาเป็นกำลังหลักของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการกวาดแชมป์มากมายมาสู่โรงละครแห่งความฝัน การที่สโมสรจะดันผู้เล่นเยาวชนสู่ทีมชุดใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่น่าประหลาดใจคือ ปีศาจแดง สามารถผลิตนักเตะฝีเท้าดีได้พร้อมกันถึง 6 ราย ได้แก่ ไรอัน กิ๊กส์, แกรี่ เนวิลล์, เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, นิคกี้ บัตต์ และ ฟิล เนวิลล์

ประโยคคลาสสิคที่ทำให้ทั้งโลกรู้จักเหล่า คลาส ออฟ 92 คือประโยคที่ออกจากปาก อลัน แฮนเซ่น อดีตดาวเตะลิเวอร์พูล ที่ผันตัวไปเป็นนักวิจารณ์ “คุณไม่มีทางชนะได้ ด้วยเด็กเหล่านี้หรอก” โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นฤดูกาล 1995/96 เริ่มต้นขึ้น ในวันแรกปีศาจแดงเปิดสนามด้วยความพ่ายแพ้ต่อแอสตัน วิลล่า จากที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่ โดยการปล่อยดาวดังตัวเก๋าตั้งแต่ อังเดร แคนเชลสกี้ส์, มาร์ค ฮิวจ์ส และ พอล อินซ์ และเน้นดันเหล่านกน้อยมาแทนที่นักเตะรุ่นเก๋า

ประเด็นคือตั้งแต่ที่ เฟอร์กูสัน เข้ามาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาเคยย้ำเอาไว้ ว่าจะเน้นระบบแมวมองนักเตะเยาวชนสโมสร มากกว่าการเน้นสตาร์ดัง สุดท้ายคำพูดที่ อลัน แฮนเซ่น วิจารณ์ เฟอร์กูสัน ไว้ ได้กลับไปตอกหน้าตัวเองแหกทันที เพราะฤดูกาลนั้นเหล่ายังบลัดพาปีศาจแดงคว้าแชมป์ได้ทั้ง พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ มันเกิดขึ้นจากสไตล์การเล่นฟุตบอลที่ไร้ความเกรงกลัว ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของสโมสร นั่นเพราะนักเตะชุดคลาส ออฟ 92 นั้นต่างก็รู้วิธีการเล่นร่วมกันเป็นอย่างดี

ไรอัน กิ๊กส์ คือ คนแรกที่ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ในปี 1990 ด้วยวัย 17 ปี เจ้าหนูความเร็วสูงได้มีโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ ลี ชาร์ป บาดเจ็บ กิ๊กส์ โชว์ฟอร์มโดดเด่นในกราบซ้าย มีลีลากระชากกระชากลากเลื้อยที่สวยงาม จนได้รับฉายาสุดเท่ว่า ปีกพ่อมด การได้รับโอกาสครั้งนี้สามารถตอบแทนความไว้วางใจของกุนซืออย่าง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ดีมาก เพราะตลอดการค้าแข้งของ ปีกพ่อมด เจ้าตัวเป็นแกนหลักที่พาสโมสรคว้าแชมป์อย่างมากมาย และตลอดอาชีพค้าแข้ง กิ๊กส์ ลงเล่นให้ ปีศาจแดง เพียงสโมสรเดียวเท่านั้น

สำหรับ แกรี่ เนวิลล์, เดวิด เบ็คแฮม และ นิคกี้ บัตต์ ได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่ในปี 1992 โดย แกรี่ เนวิลล์ ได้ตำแหน่งตัวจริงก่อนเพื่อนคนอื่นที่ขึ้นมาพร้อมกัน หลังจาก พอล ปาร์คเกอร์ โชว์ฟอร์มไม่เข้าตาป๋าเฟอร์กี้สักเท่าไหร่ แกรี่ เนวิลล์ จึงถูกดันเป็นตัวหลักในทันที เนฟ ถือเป็นนักเตะที่รับผิดชอบกราบขวาได้อย่างแข็งขัน และดุดัน มีระเบียบในการเล่นสูง นั้นจึงทำให้เจ้าตัวถือเป็นหัวใจหลักในทีมของ เฟอร์กูสัน และรวมถึงทีมชาติด้วย ตลอดอาชีพค้าแข้งของ แกรี่ เจ้าตัวลงเล่นให้ปีศาจแดงเพียงสโมสรเดียวเท่านั้น

ส่วน นิคกี้ บัตต์ ได้ขึ้นมาเป็นตัวหลักในฤดูกาล 1994/95 แม้ช่วงแรกเจ้าตัวจะได้ลงเล่นเพียงเป็นอะไหล่สำรองแทนรุ่นพี่คนอื่นๆ แต่เจ้าหนู บัตต์ ก็ไม่ปริปากบ่นสักคำ เฟอร์กูสันตัดสินใจปล่อยดาวดังของทีมอย่าง อังเดร แคนเชลสกี้ส์, มาร์ค ฮิวจ์ส และ พอล อินซ์ ถูกปล่อยออกไป ไม่นานเจ้าตัวก็สามารถแจ้งเกิดในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับของทีมได้อย่างรวดเร็ว บัตต์ ถือเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมในการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ และช่วงบั้นปลายการค้าแข้งกับปีศาจแดง สโมสรถือว่ามีความแข็งแกร่งสูง ในฤดูกาล 2004/05 นิคกี้ บัตต์ จึงตัดสินใจย้ายทีมไปหาความท้าทายใหม่ๆ กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ต่อมาของชุด คลาส ออฟ 92 นักเตะเจ้าของฉายา เท้าชั่งทอง ผู้ชายที่เป็นไอดอลของใครหลายคนทั่วโลก เดวิด เบ็คแฮม เทพบุตรรายนี้ได้รับโอกาสหลังจากกลับมาจากการปล่อยยืมให้ เพรสตัน นอร์ท เอนด์ เมื่อฤดูกาล 1994/95 เจ้าหนู เดวิด เบ็คแฮม ก็ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่องในตำแหน่งกราบขวาแทนรุ่นพี่ที่ถูกปล่อยไปทันที โดยลูกยิงของเขาถือเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกในยุคนั้นจับตามองอยากเลียนแบบ และหลงไหลเป็นอย่างมาก

แม้เจ้าตัวจะไม่มีความเร็วที่จัดจ้าน และไม่มีลีล่าในการกระชากบอลที่สวยงามเหมือนนักเตะริมเส้นคนอื่นๆ แต่เขาทดแทนมันด้วยเครื่องหมายการค้าที่ติดตัวเขาไปตลอดอาชีพการค้าแข้ง นั้นก็คือความแม่นยำ เบ็คแฮม กลายมาเป็นกำลังหลักของทีม ที่นำพาถ้วยแชมป์มาให้สโมสรมากมาย แต่แล้วอนาคตในเมืองถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ดับลง เพราะความเป็นซูเปอร์สตาร์ ที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงทำให้การค้าแข้งของ เบ็คแฮม กับ ยูไนเต็ดต้องแยกทางกันในปี 2003/04

ต่อมาได้แก่ มัจจุราชผมแดงเพลิง หนุ่มมากฉายาพูดน้อยต่อยหนักอย่าง พอล สโคลส์ สุดยอดกองกลางอัจฉริยะถือเป็นอีกหนึ่งผลผลิต ที่เป็นกำลังหลักของยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ สโคลส์ เป็นกองกลางที่ยิงไกลได้ดี มีวิสัยทัศน์ในการทำเกมสูง และวางบอลยาวได้อย่างแม่นยำ ถือเป็นกำลังหลักของทีมในยุคของป๋าอย่างแท้จริง ถึงขนาดที่ เฟอร์กูสัน ขอร้องให้กลับมาเล่นฤดูกาลสุดท้ายให้ ตลอดอาชีพค้าแข้งถึง 2 ครั้งของ สโคลส์ เจ้าตัวลงเล่นให้ปีศาจแดงเพียงสโมสรเดียวเท่านั้น

และคนสุดท้าย คือ ฟิล เนวิลล์ น้องชาย แกรี่ เนวิลล์ ซึ่งอายุน้อยที่สุดใน คลาส ออฟ 92 ฟิล ไม่โดดเด่นมากมายเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แต่เขามีความโดดเด่นตรงที่ความสารพัดประโยชน์ โดยเจ้าตัวสามารถลงเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้ง กองกลาง และกองหลัง ก่อนที่ตอนหลังเจ้าตัวจะย้ายไปหาอะไรใหม่ๆ โดยการย้ายไป เอฟเวอร์ตัน ในต้นฤดูกาล 2005/06 และสิ้นสุดการค้าแข้งกับ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ฤดูกาล 2013/14


คลาส ออฟ 92 ไม่ใช่แค่กลุ่มนักเตะที่นำพาความสำเร็จ และความยิ่งใหญ่คว้าแชมป์มาประดับตู้โชว์ของ โรงละครแห่งความฝัน แต่พวกเขาคือความทรงจำ ความประทับใจ ความภาคภูมิใจ ของสาวกปีศาจแดง ตลอดกาล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น